Raikage ไรคาเงะรุ่นที่ 4 ชายผู้เลือดร้อนแห่งคุโมะงาคุเระ

            ไรคาเงะรุ่นที่ 4 (Fourth Raikage) ชายเลือดร้อนและเจ้าอารมณ์จากเรื่องนารูโตะ สำหรับชื่อจริงของเขานั้นไม่มีปรากฏแต่สำหรับธรรมเนียมที่ผ่านมาของหมู่บ้านคุโมะงาคุเระนั้นดูเหมือนจะกำหนดให้ผู้ที่ขึ้นเป็นไรคาเงะจะได้รับชื่อที่เป็นโค้ดว่า “เอ” (A) ทุกคนตั้งแต่รุ่นที่ 1 มาแล้ว จะมียกเว้นก็คือในรายของดารุยซึ่งถือว่าได้ขึ้นเป็นไรคาเงะในยุคสมัยใหม่


ไรคาเงะรุ่นที่ 4 (Fourth Raikage)

            ไรคาเงะรุ่นที่ 4 (ต่อไปของใช้เพียงคำว่าไรคาเงะสั้นๆแต่เอาเป็นว่าเข้าใจตรงกันว่าหมายถึงรุ่นที่ 4) เขาเป็นลูกชายของไรคาเงะรุ่นที่ 3 ที่เสียชีวิตไปแล้วและเป็นพี่น้องร่วมสาบานของคิลเลอร์บีที่ผ่านการคัดเลือกจากเด็กๆในหมู่บ้านให้กลายมาเป็นคู่หูของเขา


ซี ไรคาเงะ ดารุย

            นอกจากคิลเลอร์บีที่ถูกกำหนดให้เป็นคู่หูของเขาแล้ว ข้างตัวของไรคาเงะก็ยังมีนินจาฝีมือดีคอยทำหน้าที่คุ้มกันอย่างดารุยที่คอยทำหน้าที่เป็นมือขวากับซี (อาจจะโค้ดเช่นกัน) ที่ทำหน้าที่เป็นทั้งนินจาสายตรวจจับและนินจาแพทย์ เรียกว่าแค่ 3 คนก็แข็งแกร่งสุดๆแล้ว


ไรคาเงะ vs ซาสึเกะ

            แม้ว่าไรคาเงะนั้นมีนิสัยใจร้อน วู่วาม มุทะลุ ชอบใช้กำลังตัดสินปัญหาและมักจะลงมือทำอะไรอย่างรวดเร็วโดยไม่ฟังคำทัดทานเท่าใดนัก แต่กระนั้นเขาก็มีข้อดีมากๆอยู่ก็คือการที่เขาเป็นคนรักพวกพ้องที่สุดและจะลงมือจัดการคนที่คิดร้ายกับพวกพ้องอย่างไร้ความปราณี แม้จะต้องแลกด้วยมือซ้ายก็ยอม


ไรคาเงะ vs มินาโตะ

            ในเรื่องฝีมือของไรคาเงะนั้นจัดได้ว่าเป็นอันดับต้นๆของยุคเลยทีเดียว จุดเด่นของเขาคือพละกำลังและความรวดเร็วที่เรียกว่าความเร็วย้ายร่าง ในอดีตมีเพียงมินาโตะเท่านั้นที่มีความเร็วเหนือกว่าเขาซึ่งหลังจากมินาโตะตายไปไรคาเงะก็คือผู้ที่เคลื่อนไหวได้รวดเร็วที่สุดในยุค

สไตล์การต่อสู้
            ไรคาเงะมีจักระในปริมาณมหาศาลจนเกือบจะเทียบเท่ากับสัตว์หาง สไตล์การต่อสู้ของเขานั้นไม่เน้นการใช้วิชานินจาที่หลากหลายแต่จะใช้โล่สายฟ้าที่เกิดจากการแปลงสภาพจักรธาตุสายฟ้ามาห่อหุ้มร่างเอาไว้จนกลายเป็นเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งและยังทำให้เคลื่อนไหว ผลลัพธ์ที่ได้คือการโจมตีที่รวดเร็วและรุนแรง


บ่วงบาศคู่ (Double Lariat)

ท่าโจมตีประสาน
            นอกจากสไตล์การต่อสู้เฉพาะตัวแล้ว ไรคาเงะยังมีท่าโจมตีประสานที่เกิดจากการฝึกฝนกับคิลเลอร์บีที่ผ่านการคัดเลือกมาจนกลายเป็นท่าเผด็จศึกที่เรียกว่าบ่วงบาศคู่ (Double Lariat) โดยการกำหนดระดับพลังของทั้งสองให้เท่ากันแล้วใช้ท่อนแขนเข้าโจมตีศัตรู (ตามภาพ) เรียกได้ว่าหากเจอท่านี้เข้าไปก็ยากที่จะรอดไปได้