โจจิมักจะพูดจาด้วยคำที่เชื่องช้ากว่าปกติอันเป็นผลจากลักษณะทางกายภาพที่อ้วน คำต้องห้ามของเขาคือทุกคำที่สื่อความหมายว่า “อ้วน” นอกจากรูปร่างที่ค่อนข้างอ้วนแล้วโจจิยังมีเอกลักษณ์บนใบหน้าคือรอยวนที่แก้มทั้งสองข้างซึ่งมันอาจจะเป็นลักษณะเฉพาะของผู้ชายในตระกูลแต่จะต่างกันเพียงรูปร่างและสีสันที่ไม่เหมือนกัน
แม้โจจิจะเป็นคนขี้กลัวและขาดความมั่นใจจนกลายเป็นปมด้อยในใจ แต่เขาก็เป็นคนที่อ่อนโยนยิ่งกว่าใครๆ ในวัยเด็กนั้นโจจิมักจะถูกมองว่าเป็นส่วนเกินและกลายเป็นตัวถ่วงของเพื่อนอยู่เสมอ กระทั่งได้พบกับชิกามารุที่มองเห็นคุณค่าของเขาทำให้โจจิรักชิกามารุมากและยอมแลกชีวิตหากมีใครมาดูถูกเพื่อนรัก
โจจิเป็นสมาชิกในทีมอาสึมะ (ทีม 10) เพื่อร่วมทีม 2 คนคือชิกามารุกับอิโนะโดยมีอาสึมะเป็นหัวหน้า แม้ฝีมือของโจจิอาจจะไม่สูงมากแต่การอยู่กับชิกามารุมานานทำให้เขารู้ว่าควรทำอะไรในเวลาใด บวกกับรูปแบบการโจมตีประสานอิโนะชิกะโจจึงทำให้ทีม 10 กลายเป็นทีมที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโคโนฮะ
รูปแบบการต่อสู้
โจจิมีวิชาที่สืบทอดกันมาในตระกูลคือการขยายร่างให้ใหญ่ขึ้น ทั้งการขยายร่างเฉพาะส่วนและการขยายทั้งร่าง รูปแบบการโจมตีของเขาจึงเน้นไปที่การใช้พละกำลังมหาศาลและร่างกายที่ใหญ่โตพุ่งเข้าปะทะแบบตรงๆ ไม่เน้นการอาวุธลับหรือคาถาแนวอื่นในการต่อสู้
ไม้ตายของโจจิซึ่งถือเป็นวิชาขั้นสุดยอดของตระกูลอาคิมิจิคือท่าผีเสื้อ เมื่อใช้ท่านี้ร่างกายจะผอมลงจนดูสมส่วนแต่จะเพิ่มพลังขึ้นเป็นร้อยเท่าโดยมองเห็นจักระที่ด้านหลังปรากฏเป็นรูปปีกผีเสื้อ ในตอนแรกมันเป็นวิชาที่อันตรายถึงชีวิตและต้องใช้ยาในการกระตุ้น แต่ตอนหลังเขาสามารถใช้มันได้อย่างเป็นธรรมชาติ