แรมโบ้เป็นผู้พิทักษ์อัสนีของวองโกเล่รุ่น 10 เขามีร่างกายที่สามารถปล่อยให้ไฟฟ้าแรงสูงไหลผ่านได้อย่างน่าทึ่งขนาดเวลเด้ยังต้องทำการวิจัยถึงความลับของร่างกานี้ แรมโบ้มีบาซูก้าทศวรรษที่สามารถยิงตัวเองสลับกับร่างในอีก 10 ปีข้างหน้าได้
ในศึกชิงแหวนอัสนีระหว่างวองโกเล่กับวาเรีย แรมโบ้ใช้บาซูก้าทศวรรษสลับร่างตัวเองในอีก 10 ปีข้างหน้ามาสู้แต่ไม่ได้ผล แรมโบ้ใช้บาซูก้าทศวรรษอีกครั้งสลับร่างกับตัวเองในอีก 20 ปีข้างหน้าซึ่งมีความเป็นผู้ใหญ่และเยือกเย็นสมกับเป็นนักฆ่าออกมาสู้ ในช่วงการโจมตีครั้งสุดท้ายใส่เลวี่เวลาที่ใช้ในการสลับร่างก็หมดลงเสียก่อนทำให้แรมโบ้เด็กสลับกลับมาก่อนที่สึนะจะเข้ามาขัดขวางการต่อสู้พร้อมกับความพ่ายแพ้ในศึกผู้พิทักษ์อัสนี
แรมโบ้เด็กถูกส่งตัวไปยังอนาคตพร้อมกับวองโกเล่ริงเพื่อสู้กับมิลฟิโอเล่แฟมิลี่ แม้จะเห็นว่าแรมโบ้ยังเด็กเกินไปที่จะต่อสู้แต่สึนะในอนาคตไม่มีทางเลือก แรมโบ้แทบจะไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและยังคงเล่นสนุกกับอี้ผิงในฐานทัพวองโกเล่ไปวันๆ
ในการทอสอบเพื่อรับสัญลักษณ์อัลโกบาเลโน่อัสนี เวลเด้ไม่สนใจการทดสอบเพียงแต่ต้องการทำการวิจัยอาวุธที่สร้างขึ้น เขาใช้กระแสไฟแรงสูงเล่นงานผู้พิทักษ์วองโกเล่กับอัลโกบาเลโน่คนอื่นๆแต่ถูกระเบิดของแรมโบ้เล่นงานจนต้องยุติแผนการลง
ผู้พิทักษ์อัสนีรุ่นแรกไม่ชอบเด็กโดยเฉพาะเด็กอย่างแรมโบ้ การทดสอบตำแหน่งผู้สืบทอดแหวนอัสนีตัวจริงของแรมโบ้จึงมีแค่เพียงการเล่นในสวนสนุกและประทับตราสัญลักษณ์ของเครื่องเล่นจากนั้นจึงไปให้ให้ถึงปราสาทที่แลมโพคอยอยู่ การทดสอบของแรมโบ้ถูกเวลเด้เข้ามาก่อกวนเพื่อเก็บข้อมูลร่างกายของแรมโบ้ทำให้แรมโบ้ประทับตราสัญลักษณ์ได้ไม่ครบแต่การที่แรมโบ้ช่วยปกป้องปราสาทไว้ทำให้แลมโพใจอ่อนและยอมรับให้เป็นผู้สืบทอดตัวจริง
ในศึกสุดท้ายกับหกบุบผาอาลัยตัวจริง แรมโบ้ถูกกระตุ้นด้วยความรู้สึกที่อยากกลับบ้าน อยากกลับอดีตไปเจอแม่ของสึนะช่วยดึงความพร้อมที่หลับอยู่ในตัวแรมโบ้เปิดอาวุธกล่อง “โล่ของแลมโพ” เกราะที่ถูกเรียกว่าสายฟ้าที่ซ่อนการโจมตีเหี้ยมโหดเอาไว้ แรมโบ้ใช้โล่นี้ทำลายไดโนเสาร์หลายสิบตัวของคิเคียวได้อย่างง่ายดาย